รีวิวโรงแรม Osaka Floral Inn Namba

รีวิวโรงแรม Floral Inn Namba Osaka





สาเหตุที่ผมเลือกจองโรงแรมนี้มีข้อดี 8 อย่าง ก็คือ

1. ทำเลดีมาก ริมถนนใหญ่และใกล้ซอยที่มีของกินมากมาย
2. ใกล้กูลิโกะและร้านขายเครื่องสำอางค์ถูกๆ
3. ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน
4. มีมินิมาร์ทแบบเดียวกับ 7-11 บ้านเราติดกับตัวโรงแรมเลย
5. ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับโรงแรมอื่นในเขตเดียวกัน
6. อยู่ตรงย่านนัมบะ ประมาณสยามสแควร์บ้านเรานี่เอง
7. โรงแรมมีบริการฟรีไวไฟ
8. สามารถฝากกระเป๋าทิ้งไว้ได้เมื่อเชคเอ๊าท์แล้ว

อีกอย่างเนื่องจากเคยไปพักโรงแรมในย่านนัมบะนี้แล้ว เลยคิดว่าจากตรงนี้ไปไหนมาไหนก็สะดวก
เลยตัดสินใจมาพักแถวนี้อีกครั้งครับ

จากสถานีนัมบะ เดินทางเดินด้านล่างเรื่อยๆ ให้พยายามมองหา Namba Walk
แล้วเดินไล่มาเรื่อย ๆ จนถึง Exit 20 อยู่ซ้ายมือ
จะมีลิฟท์อยู่ตัวนึงขึ้นมาชั้น 1 จะเจอตึกที่มีตู้หนีบตุ๊กตาให้บริการอยู่
เดินเลียบถนนใหญ่มาเรื่อยๆ เห็นมินิมาร์ทชื่อ SunRus โรงแรมจะอยู่ถัดไปเลยครับ




ข้อมูลเบื้องต้นของโรงแรม
ที่อยู่โรงแรม :  1-9-7, Sennichimae, Chuou-ku, Namba, Osaka, Japan 542-0074
ห้องที่จอง : Small Double Bed Room - Non Smoking
คอนดิชั่น : เชคอิน 3 p.m.  เชคเอ๊า 10 a.m.
อาหารเช้า : 7.00 - 9.30 a.m.

สิ่งอำนวยความสะดวก :
- ฟร้อนให้บริการ 24 ชม.
- ห้องให้บริการเกี่ยวกับปริ๊นเอกสาร หรือใช้อินเตอร์เนต
- ลิฟท์
- บริการซักรีด
- ห้องจัดการประชุม
- โซนสูบบุหรี่
- ตู้กดเครื่องดื่มและตั๋วสำหรับดูทีวีช่องพิเศษ
- ให้บริการนวด
- ไวไฟฟรีในห้องและบริเวณโรงแรม
- ที่จอดรถ
- พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้

เด็ก 0-5 ขวบ พักฟรีแต่ถ้าขอที่นอนเด็ก ( Baby cot ) ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
เด็ก 6-12 ขวบต้องจ่ายสำหรับเตียงเสริม
เด็กอายุเกิน 12 ขวบ คิดราคาเท่ากับผู้ใหญ่

ถ้าจะเพิ่มเตียงเสริมขึ้นอยู่กับห้องที่คุณเลือก ให้เชคคอนดิชั่นดีๆ อีกรอบนะครับ




เมื่อเดินเลียบถนนใหญ่มาเรื่อยๆ จะเจอมินิมาร์ท SunRus แสดงว่าใกล้ถึงแล้ว




ป้ายโรงแรมใหญ่โตมโหฬาร




ทางลากกระเป๋าไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่ครับ เพราะมันมีลักษณะโค้งๆ ระวังล้มด้วย




เชคอินไปอย่างราบรื่น ขอแค่ Passport และ Booking voucher
พอขึ้นลิฟท์มาก็เจอทางเดินกว้างๆ หน้าลิฟท์



ลักษณะทางเดินบนชั้น




ได้ห้อง 316 เป็นห้องที่อยู่ชั้นล่างๆ วิวหน้าต่างไม่มีเพราะตึกบังหมด




เปิดเข้าห้องมาเจอบริเวณที่ให้แขวนเสื้อและวางกระเป๋าเล็กๆ




สลิปเปอร์ไว้เดินในห้อง ( สามารถใช้ใส่เดินไปมินิมาร์ทได้ด้วย )

เตียงที่นอนได้ 2 คนแบบเบียดๆ นิดหน่อย ถือว่าโอเคครับ




สำรวจห้องน้ำบ้าง เปิดมาเจอ Amenities มากมาย
ที่โกนหนวด ไม้แคะหู แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผ้ามือ ผ้าตัวอย่างละ 2 ชุด และไดร์เป่าผม




อ่างอาบน้ำเล็กๆ พร้อมผ้าเช็ดเท้าไว้กันลื่น





อ่างล้างหน้า มีแก้ว 2 ใบ น้ำยาล้างมือบนขวดเขียนว่าสามารถใช้แทนโฟมล้างหน้าได้ด้วยครับ




สีแดง - ร้อน สีน้ำเงิน - เย็น
มีข้อความเขียนว่า น้ำจากก๊อก สามารถใช้ดื่มได้ ลองดื่มแล้วสะอาดครับแต่รสชาติแปลกๆ
ขอซื้อน้ำขวดจากมินิมาร์ทดีกว่า



สบู่อาบน้ำ แชมพู ครีมนวด ทุกขวดมีกลิ่นหอม ใช้แล้วเพลินดีครับ ชอบๆๆ



กาต้มน้ำข้างทีวี พร้อมแก้วร้อนและถุงชาเขียว



ทีวีและตู้เย็นที่ไม่ค่อยเย็นเท่าไหร่แต่ไม่เป็นไร


สรุปผมพักที่นี่ 4 คืน เรียกได้ว่าสะดวกสบายมากๆ เมื่อเทียบกับเพื่อนผมที่ไปช่วงเวลาเดียวกัน เจอกันที่โอซาก้าโดยบังเอิญครับ เค้าพักอยู่นอกเมือง เวลาเข้ามานัมบะ ต้องนั่งรถไฟกลับไปโรงแรมพร้อมของพะรุงพะรัง ถ้ามาคราวหน้าก็จะมาอีกแน่นอนครับ :)

ผมให้คะแนน 10/10 เลย ^^

ถ้าชอบรีวิวนี้กรุณากด +1 ให้เวบผมด้วยน๊าาา ขอบคุณที่มาอ่านครับผม









Keyword : timemykungguide, ตะลุยญี่ปุ่นเอง, เที่ยวญี่ปุ่นเอง , เที่ยวด้วยตัวเอง , รีวิวร้านอาหารในญี่ปุ่น, รีวิวโรงแรมย่านนัมบะ, Osaka Floral Inn Namba, Osaka, Glico, Shinsaibashi, Little Osaka




โพสต์แลกเปลี่ยนความรู้กันได้ที่นี่เลยครับ โดยใช้ Facebook Username ของคุณ

นั่งรถไฟชินคันเซนโนโซมิจากสถานีฮากาตะไปโอซาก้า ( Nozomi Train )

รถไฟชินคันเซนโนโซมิจากสถานีฮากาตะ ไปโอซาก้า
จากสถานีรถไฟใต้ดินฟุกุโอกะ ไปสถานีฮากาตะที่เป็นสถานีที่ให้บริการรถไฟชินคันเซน

ใช้เวลาโดยสารเพียง 6 นาทีครับ ราคาตั๋วอยู่ที่คนละ 250 เยน

ห่างกันเพียงแค่ 2 สถานีเท่านั้น สถานี Hakata ยังเป็นสถานีที่มีแหล่งช้อปปิ้งมากมายอีกด้วย





จากสถานีใต้ดิน ขึ้นมาชั้น 1F เราพยายามหาดูแล้วไม่มีลิฟท์ขึ้นมา ต้องยกกระเป๋าขึ้นบันไดมา
เล่นเอาแย่เหมือนกันนะ แต่ดีครับไปชั้นรถไฟชินคันเซนมีลิฟท์ให้บริการ




โลโก้ชินคันเซนใหญ่ชัดเจนเลยทีเดียว




หลังจากแลก JR PASS แล้ว บอกเจ้าหน้าที่ว่ารอบไหนว่างก็ทำการจองตั๋วได้เลยนะครับ
และหลังจากได้ตั๋วมาแล้วดูให้ดีว่า

1. ชานชาลาอะไร สามารถเชคได้ที่ทางเข้าชินคันเซนเลยจะมีหน้าจอใหญ่ยักษ์ ไม่ก็ถาม พนง. เอาครับ
2. ตั๋ว Reserved seat หมายถึง ไม่มีใครมานั่งที่เราได้นะครับ มันจะมีโบกี้ Non reserved
4. รถไฟชื่ออะไร เลขอะไร จากไหนไปไหน อย่างในตั๋วชื่อ NOZOMI เลข 28 Hakata - Shin-Osaka
5. รถไฟจะออกจากชานชาลากี่โมงถึงกี่โมง ในตั๋วออก 12.04 - 14.34 p.m.
6. รถไฟไม่สูบบุหรี่
7. ตัวเล็กๆด้านล่าง Car.15 หมายถึง โบกี้ที่ 15 ที่นั่ง 8-D




เชคให้แน่ใจก่อนว่าตรงนี้แน่นะ 12.04 รถไฟ NOZOMI 28 ไป Tokyo อย่าพึ่งตกใจ
รถไฟมันจอดที่ชินโอซาก้าแล้วไปต่อจนสุดสายที่ Tokyo ครับ

ในรูปหมายถึง NOZOMI และ HIKARI มี 16 โบกี้ จุดที่ป้ายแสดงอยู่นี่คือเรายืนอยู่ที่โบกี้
14 อ่านแล้วชอบๆ ทุกๆรายละเอียดมีข้อมูลชัดเจนดีครับ




นี่แหละขบวนของเรา ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคร้าบ

ลักษณะภายในรถไฟ เบาะเป็นลายจุด สวยดีครับ

เมื่อมาถึงเก้าอี้ของเรา มีที่วางแขนสามารถปรับยกขึ้นได้ ที่นั่งริมหน้าต่างมีปลั๊กเสียบด้วยครับ

A ในรถไฟ คือ ที่นั่งติดหน้าต่าง เก้าอี้ 3 ตัว
B คือตรงกลาง
C คือริมทางเดิน

D คือริมทางเดินอีกฝั่งเป็นเก้าอี้คู่
E คือริมหน้าต่างของเก้าอี้คู่

ช่องเสียบมีลักษณะเหมือนของประเทศไทยเรา
บนรถไฟให้ได้แค่ 100 volt
ส่วนภาษาอังกฤษหมายถึงการจ่ายกระแสไฟฟ้าอาจดับหรือผันผวนได้



พอดีเห็นอีกฝั่งไม่มีคนนั่งเลยขอไปชาร์จหน่อยครับ ^^"





มีรายละเอียดด้านหลังเก้าอี้ เผื่อมานั่งผิดครับ ตรงนี้อยู่ในโบกี้ 15 ไม่สูบบุหรี่

ที่นี่เค้าเน้นย้ำมาก คือถ้าสูบต้องไปสูบในตู้ที่เค้าจัดให้โดยเฉพาะเลย

เปิดลงมาเป็นโต๊ะได้เค้าเขียนว่า รับน้ำหนักได้ 10 กิโลกรัม

Keyword : timemykungguide, ตะลุยญี่ปุ่นเอง, เที่ยวญี่ปุ่นเอง , เที่ยวด้วยตัวเอง , รีวิวร้านอาหารในญี่ปุ่น, รีวิวร้านอาหารในคิวชู, ฟุกุโอกะ , ชินคันเซน , โอซาก้า, ไทม์มี่คุง,ทามมี่คุง, japan trip, japan guide, japan food , ramen, fukuoka, osaka, nara, kyoto, hiroshima, shinkansen bullet train, aso, kumamoto, เดินทางจากฟุกุโอกะไปโอซาก้า, Fukuoka to Osaka, Nozomi train, Nozomi 28, Fukuoka to Tokyo, Bento box, Ekibento, อาหารปิ่นโตญี่ปุ่น, กินข้าวบนรถไฟชินคันเซน




โพสต์แลกเปลี่ยนความรู้กันได้ที่นี่เลยครับ โดยใช้ Facebook Username ของคุณ

การเดินทางจากสนามบินฟุกุโอกะไปสถานีฮากาตะ ( Fukuoka Airport to Hakata Station )

การเดินทางจากสนามบินฟุกุโอกะ ไปสถานีรถไฟฮากาตะ
( Fukuoka Airport to Hakata Station )

                                                                          

วิธีการเดินทางเดี๋ยวนี้หาข้อมูลได้ง่ายมาก แตกต่างจากเมื่อก่อนนะครับ เพียงแค่คุณเข้า

www.google.com/maps ก็ดูได้แล้วว่ามีรถไฟสายอะไร เวลากี่โมง จากไหนถึงไหน และใช้เวลานานเท่าไหร่ รวมถึงมีการบอกเที่ยวบินด้วยนะครับ

ถ้าคุณไม่อยากเข้าเวบไซต์ สามารถโหลดโปรแกรม google maps ลงใน smart phone ของคุณได้อีกด้วย

ทีนี้มาถึงการเดินทางไปโอซาก้าหรือตัวเมืองอื่นๆ ทั่วญี่ปุ่นกันนะครับ

รถไฟชินคันเซนของที่ญี่ปุ่น จะมีสถานีให้บริการของเค้าโดยเฉพาะ และมักจะมีคำว่า Shin นำหน้าชื่อสถานี ยกตัวอย่างเช่น

- เมือง Fukuoka จะมีให้บริการที่สถานี Hakata
- เมือง Osaka จะมีให้บริการที่สถานี Shin-Osaka
- เมือง Hiroshima จะมีให้บริการที่สถานี Shin-Hiro

เพราะฉะนั้นเวลาที่เราต้องการจะแลกตั๋ว Shinkansen ที่เราซื้อจากเอเจ้นที่ไทย จะสามารถแลกได้เฉพาะสถานีที่มีรถไฟชินคันเซนให้บริการนะครับ และตั๋วที่มีให้บริการเฉพาะเขต เช่น ตั๋วคิวชูนอร์ทเทิร์น สามารถหาแลกได้เฉพาะสถานีรถไฟชินคันเซนที่อยู่ในเขตคิวชู ไม่สามารถแลกในเขตโอซาก้า หรือฮิโรชิม่าได้

Tips : ถ้าจะนั่งรถไฟที่จองยากๆ เช่น Yufuin no mori หรือ aso boy ควรแลกตั๋วแล้วจองเลยทันที ถ้าหากออกไปนอกเขตแล้วต้องกลับมาแลกตั๋วถึงจะจองรถไฟได้ อาจจะมีสิทธิ์ชวดที่นั่งก็เป็นได้ครับ ถ้าดวงดีได้ที่นั่งแยกกันก็ค่อยยังชั่ว เพราะหลายๆครั้งที่มีคนตกรถไฟ เราสามารถย้ายที่นั่งมานั่งด้วยกันได้


พล่ามมาเยอะแล้ว เรามาดูรูปกันดีกว่านะครับ เพื่อเป็นการพักสายตา ^^

เมื่อเรามาถึงสนามบินฟุกุโอกะ จะเจอป้ายต้อนรับ Welcome แบบนี้ครับ น้ำตาจะไหลบินมา 6 ชม. T^T

International Arrival Hall สนามบินฟุกุโอกะของเขาค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับสุวรรณภูมิ

มองหา Information Counter ให้เจอครับ ขวามือจะเป็นทางออกไปที่จอดรถเวียนไปสู่ Domestic Hall
และ Subway ที่จะไปสถานี Hakata ต้องขึ้นจากตรงนั้นครับ

เดินออกจากหลังป้ายนี้จะเป็นจุดจอดรถเวียน หาง่ายมั่กๆ

รถเวียนสีสันสวยงาม เสมือนท้องฟ้าเมืองฟุกุโอกะ ณ เวลานั้นเลยครับ อากาศดีฝุดๆๆๆ

เขียนว่า International to Domestic, Subway นั้นใช่เลย

ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็มาถึงจุดลง ระหว่างอยู่บนรถจะมีประกาศว่า

"ถ้าลงจากลง ไปทางซ้ายจะเข้าสู่ Domestic Hall"
"ถ้าลงจากรถ ไปทางขวาจะไปหา Subway Station"

ได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกว่าประเทศนี้ใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆครับ

มาขวาเรื่อยๆ เจอ Subway Station เตรียมมุ่งไป Hakata ( มีบันไดเลื่อนลงด้วยครับ มีกระเป๋าลากสบายๆ )

Keyword : timemykungguide, ตะลุยญี่ปุ่นเอง, เที่ยวญี่ปุ่นเอง , เที่ยวด้วยตัวเอง , รีวิวร้านอาหารในญี่ปุ่น, รีวิวร้านอาหารในคิวชู, ฟุกุโอกะ , ชินคันเซน , โอซาก้า, ไทม์มี่คุง,ทามมี่คุง, japan trip, japan guide, japan food , ramen, fukuoka, osaka, nara, kyoto, hiroshima, shinkansen bullet train, aso, kumamoto, เดินทางจากฟุกุโอกะไปโอซาก้า, Fukuoka to Osaka, เดินทางจากสนามบินฟุกุโอกะไปสถานีฮากาตะ

โพสต์แลกเปลี่ยนความรู้กันได้ที่นี่เลยครับ โดยใช้ Facebook Username ของคุณ

เที่ยวญี่ปุ่น 10 วัน ด้วยตัวเอง ฟุกุโอกะ โอซาก้า เกียวโต นารา ฮิโรชิม่า อะโสะ คุมาโมโต้

เที่ยวญี่ปุ่น 10 วันด้วยตัวเอง

                                                                          


สวัสดีครับ โพสต์นี้เริ่มเป็นโพสต์แรกหลังจากที่อยากจะเขียนมาเนิ่นนาน แต่ด้วยที่ไม่มีเวลาซ๊ากกกก...ที ที่จะเริ่มทำ ทั้งเริ่มสร้างบล๊อค หรือตั้งชื่อ แม้กระทั่งท้ายสุดการเปิดคอมขึ้นมาแล้วมีเวลานั่งพิมนี่แหละที่หายากจริง ๆเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ถึง 16 ตุลาคม 2015 ที่ผ่านมาผมได้ไปตะลุยญี่ปุ่นมา ถามว่าทั่วมั้ย...?

ก็ไม่ได้ไปเยอะเท่าไหร่ ครบก็ไม่ครบ แต่พอจะพอเก็บภาพมาฝากเพื่อนๆ ที่หลงเข้ามาในบล๊อคแห่งนี้พอสมควรครับ

ทีนี้มาดูแพลนว่าผมได้ไปเมืองอะไรมาบ้างดีกว่า


พูดได้ว่าใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่นประมาณ 10 วัน ตั้งแต่ 6-16 ต.ค. ครับ

6 ตุลาคม : กรุงเทพฯ - ฟุกุโอกะ - โอซาก้า
7 ตุลาคม : Osaka Universal Studio Japan
8 ตุลาคม : นารา
9 ตุลาคม : เกียวโต
10 ตุลาคม : โอซาก้า - ฮิโรชิม่า
11 ตุลาคม : ฮิโรชิม่า
12 ตุลาคม : ฮิโรชิม่า - ฟุกุโอกะ
13 ตุลาคม : ฟุกุโอกะ - ยุฟุอิน
14 ตุลาคม : ยุฟุอิน - อะโสะ - คุมะโมโต้ - ฟุกุโอกะ
15 ตุลาคม : ฟุกุโอกะ
16 ตุลาคม : ฟุกุโอกะ - กรุงเทพฯ

ซึ่งแพลนที่ตั้งไว้จริงๆ แล้วไม่ได้ตรงตามนี้ครับ อันนี้คือเปลี่ยนแปลงตามเวลาที่ตื่นและเวลาเปิดปิดของสถานที่เรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นนี่คือจุดดีของการที่เราไปเอง สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา แต่ถ้าไปกับทัวร์ ข้อดีก็คือไม่ต้องเดินเยอะ และไม่ต้องจัดการท่องเที่ยวด้วยตัวเอง !

การจัดตารางเที่ยวเอง ต้องใช้พลังงานเยอะเป็นเวลาหลายๆวัน ถ้านับรวมๆ ก็หลายชม.นะครับ กว่าจะเรียบเรียงว่าเราอยากไปไหนบ้าง หรือ เราต้องใช้เงินเท่าไหร่นั้นยากพอสมควรเลย

ลองคำนวณดูนะครับว่าเราต้องการแบบไหน และผู้ร่วมทริปนี้มีเรี่ยวแรงแค่ไหน ถ้ามีผู้สูงวัยเยอะ ต้องไปกับทัวร์ แต่ถ้ารู้ตัวเองว่ายังหนุ่มยังแน่น ยังสาวยังสวย ลุยเองเลยครับ แหม่ รู้ตัวว่าเป็นแบบหลังกันใหญ่เชียวนะ ฮี่ๆๆ

แต่ขอบอกก่อนครับว่าเดินเองเนี่ยมันเหนื่อยจริงๆ รอบนี้พวกผมเมื่อกลับมาที่พัก อันดับแรกพุ่งไปเปิดน้ำร้อนทำออนเซ็นมินิไว้แช่เท้าในห้องน้ำก่อนอาบน้ำทันที

เอาเป็นว่าลองชมรูปตามนะครับว่าทริปของผมนั้นสนุกสนานและน่าติดตามแค่ไหนครับผม :)

ป.ล. รูปภาพทุกรูปผมจะมีการลงลายเซ็นไว้ ต้องขอโทษล่วงหน้าสำหรับบางรูปที่อาจจะดูไม่สวยและมีการย่อรูปให้มีขนาดเล็กลง เนื่องจากรูปทุกรูปผมถ่ายมามีขนาดใหญ่มวากกก...เพื่อเป็นการสะดวกต่อการโหลดรูปของท่านผู้เข้าชมทุกท่าน ที่บางคนเนตไม่แรง บางคนเนตแรง ข้าพเจ้าเลยทำการย่อรูปซะเลย :D

Keyword : timemykungguide, ตะลุยญี่ปุ่นเอง, เที่ยวญี่ปุ่นเอง , เที่ยวด้วยตัวเอง , รีวิวร้านอาหารในญี่ปุ่น, รีวิวร้านอาหารในคิวชู, ฟุกุโอกะ , ชินคันเซน , โอซาก้า, ไทม์มี่คุง,ทามมี่คุง, japan trip, japan guide, japan food , ramen, fukuoka, osaka, nara, kyoto, hiroshima, shinkan-sen, aso, kumamoto, เที่ยวญี่ปุ่นกับ timemykungguide




โพสต์แลกเปลี่ยนความรู้กันได้ที่นี่เลยครับ โดยใช้ Facebook Username ของคุณ